🤖⛳️ หรือเราจะตกงานกันหมด!?! - ทำความรู้จัก TacticAI ผู้ช่วยโค้ชอัจริยะ 🤖⛳️
หลังจากห่างหายจากการอัพเดตไปซักพักนึง วันนี้ผมกลับมาพร้อมกับเอาเรื่องเนิร์ดๆ มาแชร์ให้อ่านกันอีกแล้วครับ
ในช่วงสองปีหลังนี้เพื่อนๆ น่าจะได้เห็นข่าวความก้าวหน้าของ AI ไม่ว่าในการวาดรูป, แต่งเรื่อง, หรือแม้แต่การเขียนโปรแกรม จนเกิดกระแสว่าในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเราทุกคนจะถูก AI มาแย่งงานไป และผมเองทำงานด้านเทคโนโลยีโดยตรงก็แอบหวั่นๆ เหมือนกันว่าจะอาจจะต้องหาอาชีพที่ AI ไม่น่าจะทำได้ง่ายๆ และเพจวิเคราะห์แทคติกฟุตบอลก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผม “เคย” คิดว่า AI จะทำไม่ได้ครับ เพราะวันนี้ AI ได้ก้าวเข้ามาในวงการฟุตบอลแล้วด้วยเช่นกัน
TacticAI - An AI Assistant for Football Tactic เป็นงานวิจัยชิ้นล่าสุดของ Google DeepMind บริษัทเดียวกับที่สร้าง AlphaGo เมื่อหลายปีก่อน โดยในงานวิจัยนี้ DeepMind ได้ร่วมมือกับทีมวิจัยของ Liverpool เพื่อสร้าง AI ที่ช่วยแนะนำแผนการเล่นที่ดีที่สุดให้กับโค้ช โดยเจ้า TacticAI สามารถให้คำแนะนำด้าน Tactic ที่ใช้ได้จริงและน่าเชื่อถือถึง 90% จากการประเมินจากทีมงานโค้ชของ Liverpool ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจ และวันนี้ผมจะมาเล่าที่มาที่ไป และ ผลกระทบในอนาคตของ TacticAI ให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ
TacticAI เป็น AI ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบคำถามว่า เราสามารถใช้ข้อมูลและสถิติต่างๆ ในฟุตบอลที่เก็บรวบรวมไว้โดยสโมสรต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามรถในการแข่งขันของทีมได้ยังไงบ้าง
อย่างที่ผมเคยเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในโพสต์เก่าๆ ของเพจไว้ว่า ทุกวันนี้แทบจะทึกสโมสรมีการเก็บข้อมูลที่เยอะมากๆ และได้มีการนำข้อมูลมาใช้อย่างแพร่หลาย และหลายๆ สโมสรก็พยายามสร้างสูตรลับจากข้อมูลที่เก็บเอาไว้เพื่อใช้สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และ Liverpool ก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่มีทีมข้อมูลและทีมวิจัยที่แข็งแรงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ในงานวิจัยนี้ Liverpool และ DeepMind ต้องการสร้างแผนการเล่นลูกเตะมุมให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะตามสถิติในทุกๆ เกมส์การแข่งขันจะมีลูกเตะมุมเกิดขึ้นประมาณ 10 ครั้ง และทุกๆ ครั้งที่มีการเตะมุมจะมีโอกาส 10% ที่จะเป็นประตู ดังนั้นความเป็นเลิศในการเล่นลูกเตะมุมจึงเป็นจุดที่ช่วยให้ Liverpool เฉือนชนะคู่แข่งได้ครับ
ในการสร้าง TacticAI ทีมวิจัยเลือกใช้ข้อมูล Tracking Data ที่โชว์ตำแหน่งของผู้เล่นในสนามทั้ง 22 คน จากจังหวะเตะมุม 7,176 ครั้งจากเกมส์พรีเมียร์ลึคฤดูกาล 2020-2021
ทีมวิจัยนำข้อมูลนี้มาสร้าง Players Network ที่เป็นตัวแทนตำแหน่งและการดวลกันของผู้เล่น และใน Player Network นี้จะเก็บข้อมูลของนักเตะแต่ละคนและสถานะการครองบอล ประกอบกับความสัมพันธ์ของผู้เล่นแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นฝั่งเดียวกันหรือคู่แข่ง พูดง่ายๆ ก็คือการจำลองการเคลื่อนที่ของนักเตะในในจังหวะเตะมุมนั่นเองครับ
จากนั้นทีมวิจัยก็เอา Player Network นี้ไปสอน Machine Learning Model ให้ทำนายโอกาสที่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งใน Player Network จะสัมผัสบอลเป็นคนแรก และ โอกาสที่ผู้เล่นคนนั้นจะยิงประตูได้ และผลลัพธ์ของ model นี้คือภาพ snapshot ของจังหวะการเล่นลูกเตะมุมพร้อมกับโอกาสที่ผู้เล่นแต่ละคนจะรับบอลและยิงประตูได้ครับ
ผลลัพธ์ของ TacticAI นี้สามารถเอาไปใช้ได้ 2 แบบคือ
- วางแผนการเล่นลูกเตะมุม ด้วยการเปรียบเทียบการเล่นลูกเตะมุมจังหวะต่างๆ และหาจังหวะการเล่นที่ใกล้เคียงกัน
- ปรับการยืนตำแหน่งของผู้เล่นให้เพิ่มโอกาสการทำประตู ด้วยการปรับรูปแบบของ Player Network
ทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่ทีมงานโค้ชทำกันเป็นปกติอยู่แล้วในการวางแผนลูกเตะมุม หรือเราจะมองว่า TacticAI เป็นโค้ชลูกตั้งเตะอีกคนในทีมที่ช่วยแนะนำการวางแผนการเล่นก็ได้ครับ
ในงานวิจัยนี้ไม่ได้แค่เสนอว่า TacticAI ทำอะไรได้อย่างเดียว แต่ยังประเมินว่าคำแนะนำที่ TacticAI ให้มานั้นมีประสิทธิภาพแค่ไหน โดยใช้ทีมงานโค้ชของ Liverpool มาช่วยประเมินคำแนะนำใน 4 ด้านประกอบด้วย ความเนียน, ความเป็นไปได้, ความถูกต้อง, และความเอาไปใช้ได้จริง
ในสองหัวข้อแรกถูกใช้เพื่อเชคว่า TacticAI ไม่ได้แนะนำอะไรมั่วๆ ซั่วๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่เราเจอกันเป็นปกติของการใช้งาน AI ในสองหัวข้อนี้ผลลัพธ์ออกมาค่อยข้างดีคือโค้ชที่เป็นคนจริงๆ แยกไม่ค่อยออกว่าคำแนะนำนี้มาจากโค้ชด้วยกันเองหรือมาจาก TacticAI
และในสองหัวข้อหลังเป็นการวัดความสามารถว่า TacticAI ช่วยงานโค้ชได้จริงๆ เพราะถ้า TacticAI แนะนำได้แต่เรื่องพื้นๆ ที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว บางทีการไม่มี TacticAI ก็อาจจะดีกว่าก็ได้ โดยในหัวข้อนี้ตัว TacticAI ก็ทำได้ดีทีเดียวครับ โดยคำแนะนำที่มาจาก TacticAI มีประโยชน์พอๆ กับการมีโค้ชจริงๆ อีกคนนั่งอยู่ในทึมเลยครับ และด้วยผลลัพธ์แบบนี้ เราพอจะพูดได้ครับว่า TacticAI สามารถช่วยงานโค้ชในการวางแผนลูกเตะมุมได้จริงๆ
แปลว่าโค้ชกำลังจะตกงาน และ AI กำลังจะครองโลกจริงหรอ?
คำตอบคือไม่ครับ
สิ่งที่ TacticAI เก่งคือการให้คำแนะนำแผนการเล่นลูกเตะมุมที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ต่างๆ และนั่นคือสิ่งเดียวที่ TacticAI ทำได้ ซึ่งโดยรวมแล้วการเตะมุมนับเป็นเวลาแค่ 5 นาทีจาก 90 นาทีในสนาม ในอีก 85 นาทีที่เหลือเรายังต้องการความคิดสร้างสรรค์และมันสมองของโค้ชที่เป็นมนุษย์อยู่ นี่ยังไม่นับการฝึกซ้อมของนักเตะและโค้ชก่อนที่จะมาแข่งกันอีกนับพันๆ ชั่วโมง ซึ่งในอนาคตด้วยข้อมูลที่ละเอียดขึ้นและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น เราอาจจะมี TacticAI เวอร์ชั่นใหม่ๆ ที่แนะนำได้มากกว่าการเล่นจังหวะเตะมุมก็ได้ แต่นั่นคืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง โดยในขณะเดียวกันโค้ชที่เป็นเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อจริงๆ ก็ยังพัฒนาความรู้ ความเข้าใจแผนการเล่นไปพร้อมๆ กันกับการพัฒนา AI ให้เก่งขึ้น ซึ่งเป็นเหมือนการจับมือเติบโตไปด้วยกันระหว่างโค้ชและเทคโนโลยีครับ
และผมคิดว่าเราเอากรอบความคิดนี้ไปใช้กับ AI อื่นๆ ได้อีกด้วย หลังๆ มานี้เรามักจะเห็นข่าวว่า AI ทำได้หลายอย่างจัดๆ จนคิดว่าเราต้องแย่แน่ๆ เลย ทำยังไงดี
แน่นอนว่า AI ทุกวันนี้เก่งขึ้นทุกๆ วัน แต่ในขณะเดียวกันมนุษย์อย่างเราๆ ก็เก่งขึ้นไปพร้อมกับ AI ด้วยเช่นกันครับ ผมเชื่อว่าศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์เรามีไม่จำกัด ตราบใดที่เราไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนาคุณค่าในตัวเราเอง ต่อให้ AI จะสอบวัด IQ ได้สูงแค่ไหนตัวไหนก็มาแย่งงานเราไปไม่ได้ง่ายๆ ครับ